แนวทางการสร้างสรรค์เพื่อฟื้นฟูอัตลักษณ์การแสดงหนังปลัดตื้อของชาวแขวงจำปาศักดิ์ ประเทศลาว
บทคัดย่อ/Abstract
งานวิจัยเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อการแสดงหนังปลัดตื้อ ชาวแขวงจำปาศักดิ์ ประเทศลาว และ 2) เพื่อศึกษาแนวทางการสร้างสรรค์อัตลักษณ์ของการแสดงหนังปลัดตื้อ ชาวแขวงจำปาศักดิ์ ประเทศลาว โดยใช้กรอบแนวคิดเกี่ยวกับการสร้างสรรค์และสืบทอดและกรอบแนวคิดเกี่ยวกับอัตลักษณ์ เน้นการเก็บข้อมูลภาคสนาม นำเสนอผลการวิจัยแบบพรรณนาวิเคราะห์ ผลการศึกษาพบว่า
การสืบทอดการแสดงหนังปลัดตื้อของชาวแขวงจำปาศักดิ์ มีการสืบทอดโดยพ่อใหญ่พัด พรมทำแบบครูพักลักจำ จากหนังบักตื้อของพ่อใหญ่พิมพ์ เมืองเก่า ชาวจังหวัดอุบลราชธานี โดยการสร้างสรรค์และการสืบทอดรูปหนังใหม่ด้วยวัสดุในท้องถิ่นแต่คงอาศัยแบบหนังชุดรามเกียรติ์ ด้วยฝีมือชาวบ้าน เรื่องที่ใช้แสดงเริ่มแรกคือเรื่อง รามเกียรติ์ แต่เนื่องจากความไม่ชำนาญจึงปรับเปลี่ยนมาใช้วรรณกรรมพื้นบ้านแสดง มีการสร้างโรงหนังอย่างง่ายตามสถานที่ใช้แสดง ใช้จอหนังผ้าสีขาว ใช้ดนตรีแบบดั้งเดิม มีระนาด ฉิ่ง กลองสองหน้า ต่อมาปรับใช้ แคน ประกอบการแสดง และหนังปลัดตื้อของชาวจำปาศักดิ์ยังดำรงอัตลักษณ์ลาวอย่างโดดเด่นผ่านเครื่องนุ่งห่มรูปหนังที่เป็นตัวละครสตรี และผ่านการสร้างอารมณ์ขันของผู้สืบทอด นอกจากนี้ยังแสดงลักษณะร่วมของการแสดงหนังเงาของอาเซียน คือ ตัวหนังชุดรามเกียรติ์ ตัวหนังเหยียบนาค รวมทั้งตัวหนังเป็นศิลปะแบบชาวบ้านที่ปรับใช้วัสดุ อุปกรณ์ในท้องถิ่นสร้างสรรค์รูปหนัง
ในประเด็นปัญหา อุปสรรคของการแสดงพบว่า ปัจจุบันหนังปลัดตื้อคณะพ่อใหญ่พัด พรมทำได้หยุดการแสดงแล้ว เนื่องจากขาดผู้สนับสนุน ปัญหาด้านสุขภาพและขาดผู้สืบทอดที่เข้าใจอย่างลึกซึ้ง จึงเกิดแนวทางฟื้นฟูการแสดงหนังปลัดตื้อลาวของชาวแขวงจำปาศักดิ์ ด้วยการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยกับชาวบ้าน และวิทยาลัยครูปากเซ ในด้านการถ่ายทอดองค์ความรู้จากคณะหนังบักตื้อจังหวัดอุบลราชธานีแก่วิทยาลัยครูปากเซ เนื่องจากมีบุคลากร โดยการประสานงานร่วมระหว่างหน่วยงานภาครัฐ และองค์กรทางวัฒนธรรมของแขวงจำปาศักดิ์ นอกจากนี้ต้องอาศัยงบประมาณจากหน่วยงานภาครัฐ ของ สปป.ลาว รัฐบาลไทยและหน่วยงานภาคเอกชนที่ต้องร่วมมืออย่างจริงจัง เพื่อให้หนังปลัดตื้อสามารถกลับมาทำการแสดงได้อีกครั้ง และประเด็นสำคัญยิ่ง การศึกษาครั้งนี้ได้บ่งบอกการดำรงอยู่ของวัฒนธรรมร่วมของชนทั้งสองประเทศเป็นเหตุผลในการอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติภายใต้ความแตกต่างแห่งรัฐชาติ แต่ผู้คนสามารถอยู่ร่วมกันภายใต้เงื่อนไขของการมีวัฒนธรรมหนึ่งเดียว อันเป็นจุดมุ่งหมายในการสร้างประชาคมอาเซียนให้เป็นปึกแผ่นได้อย่างแท้จริง