การพัฒนากระเป๋าประคบร้อนสมุนไพรระบบไฟฟ้าลดอาการปวดหลังส่วนล่าง

บทคัดย่อ/Abstract

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อออกแบบและพัฒนากระเป๋าประคบร้อนสมุนไพรระบบไฟฟ้าลดอาการปวดหลังส่วนล่าง 2) เพื่อศึกษาประสิทธิผลทางกายภาพและทางวิศวกรรมของกระเป๋าประคบร้อนสมุนไพรระบบไฟฟ้าลดอาการปวดหลังส่วนล่าง และ 3) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของกระเป๋าประคบร้อนสมุนไพรระบบไฟฟ้าลดอาการปวดหลังส่วนล่าง การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบผสานวิธี (Mixed-Method Research) ระหว่างการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) แบ่งออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 การพัฒนาสูตรตำรับยาสมุนไพร ระยะที่ 2 การพัฒนานวัตกรรมกระเป๋าไฟฟ้า และระยะที่ 3 การศึกษาประสิทธิภาพทางคลินิก พบว่า กระเป๋าประคบร้อนสมุนไพรระบบไฟฟ้า ประกอบด้วย 1) กระเป๋าประคบร้อนที่ให้ความร้อนตื้นจะให้ความร้อนสูงสุดบริเวณผิวหนังและชั้นเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง การออกแบบแผ่นนำความร้อนของกระเป๋าประคบร้อนจะต้องให้อุณหภูมิ 45-55 องศาเซลเซียส ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า แรงดันไฟฟ้า และกระแสไฟฟ้าที่ต่ำ ความปลอดภัยและไม่เป็นอันตรายสำหรับผู้ใช้งาน ตามมาตรฐาน IEC 60601 และ มอก. 1375-2559 สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีจุดประสงค์ทางการแพทย์ โดยส่วนของกระเป๋าเป็นผ้าฝ้ายสีธรรมชาติของกลุ่มวิสาหกิจโพธิ์วิไลมีคุณสมบัติระบายความอากาศได้ดี แห้งง่าย 2) เจลลูกประคบสมุนไพร ได้แก่ เหง้าไพล ใบมะขาม ผิวมะกรูด เหง้าขมิ้นชัน ตะไคร้ ใบส้มป่อย เกลือเม็ด และการบูร เป็นผลผลิตของกลุ่มวิสาหกิจเกษตรสมุนไพรท้องถิ่นบ้านนาเยีย โดยได้นำสมุนไพรตำรับดังกล่าวไปวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ พบว่ามีฤทธิ์ในการยับยั้งการผลิตไนตริกออกไซด์ของเซลล์ Macrophage ได้ดี โดยพบว่าสารสกัดตำรับที่สกัดด้วย 95% เอทานอล สามารถยับยั้งการผลิตไน ตริกออกไซด์ได้ดีกว่าสารสกัดตำรับที่สกัดด้วย 50% เอทานอล และพบว่าสารสกัดสมุนไพรที่ใช้ความเข้มข้นระหว่าง 1-100 µg/mL สามารถยับยั้งการสร้าง Prostaglandin E2 ได้ โดยจะเห็นได้สารสกัด 95%เอทานอล มีฤทธิ์ดีกว่าสารสกัด 50%เอทานอล ซึ่งเมื่อใช้ร่วมกันจะเพิ่มประสิทธิภาพในการลดอาการปวดได้เป็นอย่างดี ซึ่งเมื่อนำไปทดลองกับกลุ่มตัวอย่าง 30 คน พบว่า ค่าเฉลี่ยระดับความรู้สึกปวดก่อนการทดลอง มีค่า