การประเมินและวิเคราะห์แนวโน้มความเสี่ยงของผลกระทบการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจากการลดมาตราส่วนทางสถิติของฝนรายวันสำหรับการพยากรณ์การเปลี่ยนแปลงในเชิงปริมาณและการกระจายตัวของฝนในช่วงฤดูฝนในช่วงระยะ เวลา 10 ปี เพื่อศึกษาด้านการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
บทคัดย่อ/Abstract
เพื่อที่จะใช้ประโยชน์จากข้อมูลปริมาณน้ำฝนรายเดือนของสถานีวัดน้ำฝนของกรมอุตุนิยมวิทยาบริเวณพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ในช่วงระยะเวลา 30 ปี ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1981-2010 จึงได้มีการใช้อนุกรมเวลาโดยตัวแบบ ARIMA สำหรับการคาดการณ์ปริมาณฝนและการกระจายตัวของฝนในช่วงฤดูฝนบริเวณกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างในช่วงระยะเวลา 10 ปี และนำข้อมูลลที่ได้จากการพยากรณ์มาใช้สำหรับวิเคราะห์ประเด็นและแนวโน้มความเสี่ยงภายใต้การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยผู้วิจัยแบ่งข้อมูลออกเป็น 2 ชุด คือชุดที่หนึ่งใช้สำหรับการวิเคราะห์เพื่อสร้างตัวแบบพยากรณ์ เป็นข้อมูลปริมาณน้ำฝน รายเดือนตั้งแต่ปี ค.ศ. 1981-2010 ระยะเวลา 30 ปี และข้อมูลชุดที่สองเป็นปริมาณน้ำฝน ปี ค.ศ. 2011-2016 ใช้เป็นข้อมูลทดสอบสำหรับการตรวจสอบผลการพยากรณ์ของตัวแบบพยากรณ์แต่ละตัวแบบที่สร้างขึ้นด้วยข้อมูลชุดที่หนึ่ง ผลจากการวิจัยแสดงว่าความผิดพลาดจากอนุกรมเวลาโดยตัวแบบ ARIMA น้อยที่สุดเป็นข้อมูลเดือน มิถุนายน พฤษภาคม ตุลาคม กรกฎาคม สิงหาคม กันยายน ตามลำดับ และพบว่าปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยต่อเดือนมากสุด ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ถึง เดือนตุลาคม ในช่วง 10 ปี ระหว่างปี 2017-2026 คือ อุบลราชธานี มุกดาหาร สุรินทร์ ร้อยเอ็ด บุรีรัมย์ และนครราชสีมา โดยเฉลี่ยต่อเดือนมีค่าประมาณ 114.1 ถึง 282.3 มิลลิเมตร
In order to utilize from monthly rainfall data of Meteorological Department of Thailand and Ubon Ratchathani Meteorological Department during 30 years since May 1981 to October 2010 in rainy season only. the objective of this research was to study the appropriate forecasting model for the rainfall in Northeastern Region of Rainy Season during 10 period predicts by forecasting time series ARIMA model. Research findings the most average monthly rainfall was Ubon Ratchathani Province and the average monthly rainfall in Northeastern Region is about 114.1 to 282.3 millimeters.